ทัวร์จีนราคาถูกแนะข้อมูลท่องเที่ยว เซี่ยงไฮ้

Saturday , 19, October 2013 Leave a comment

china

คราวก่อนทัวร์จีนราคาถูก ได้แนะนำท่านไปรู้จักกับสถานที่น่าตื่นตาตื่นใจใน Luoyang แล้ว  วันนี้ทัวร์จีนราคาถูกเลยขอแนะนำท่านไปเที่ยวต่อที่ เซี่ยงไฮ้  จะรอช้าทำไมพร้อมแล้วก็ไปกันเลย
เซี่ยงไฮ้( Shanghai)  –   ช่างไห่ หรือ เซี่ยงไฮ้ เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดของสาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งอยู่บริเวณปากแม่น้ำแยงซีเกียง ทิศเหนือ ติดต่อกับ มณฑลเจียงซู ประเทศจีน ทิศใต้ ติดต่อกับ มณฑล     เจ้อเจียง ประเทศจีน ทิศตะวันออก ติดต่อกับ ทะเลจีนตะวันออก ทิศตะวันตก ติดต่อกับ มณฑลเจียงซู และมณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน อยู่ในเขตมรสุมร้อนเอเชียเหนือ แบ่งเป็น 4 ฤดูชัดเจนและมีปริมาณฝนและแสงแดดที่เพียงพอ ฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วงระยะเวลาค่อนข้างสั้น ฤดูหนาวและร้อนค่อนข้างยาวนาน เป็นเขตการปกครองระดับเขตการปกครองพิเศษแบบเทศบาลนคร ซึ่งมีสถานะเทียบเท่ากับมณฑล มีท่าเรือที่มีจำนวนเรือคับคั่งที่สุดในโลกตามมาด้วยสิงคโปร์ และร็อตเตอร์ดัมเซี่ยงไฮ้ในอดีตเป็นแค่หมู่บ้านชาวประมง แต่ในปัจจุบันเซี่ยงไฮ้กลายเป็นเมืองที่มีคนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นมากที่สุดในจีน เต็มไปด้วยร้านค้า สิ่งก่อสร้าง ถนนเต็มไปด้วยรถ จักรยานและ ผู้คน สิ่งที่จะเห็นเยอะมากในเมืองนี้ หรือจะเป็นสัญลักษณ์ของเมืองนี้เห็นจะเป็นต้นเมเปิลที่มีอายุเกือบร้อยปี ซึ่งปลูกโดยในสมัยที่ฝรั่งเศสเข้ามายึดครองเซี่ยงไฮ้
สถานที่ท่องเที่ยวเซี่ยงไฮ้
•       หอไข่มุก (Oriental Pearl Tower) หอสูง หนึ่งในสัญลักษณ์เมืองเซี่ยงไฮ้ เป็นหอส่งสถานีโทรทัศน์ที่สูงสุดที่เอเชีย และ สูงที่สุดเป็นอันดับสามของโลก ด้วยความสูงถึง 468 เมตร มีความโดดเด่นในการออกแบบ เป็นไข่มุก ถึง 11 ลูก และ เสา 3 เสา ขนาด มหึมา ที่ค้ำหอสูงเสียดฟ้า นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นสู่หอสูงเสียดฟ้าได้ด้วยลิฟท์หกตัว เพื่อชมความยิ่งใหญ่ของนครเซี่ยงไฮ้ ในระดับความสูงที่ 267 เมตร มีภัตตาคารหมุนหรูในคุณและคู่รัก ได้ทานมื้อค่ำที่แสนวิเศษ
•      แม่น้ำหวงผู่(Huangpu river) เป็นเส้นทางเดินเรือหลักของเมืองเซี่ยงไฮ้ คดเคี้ยว ไหลจากปากแม่น้ำแยงซี ในเมืองอู๋ซ่ง ไปยังทะเลจีนตะวันออก ยาว 71 ไมล์ และ กว้าง 0.25 ไมล์ และลึก 30 ฟุต โดยเฉลี่ย ระยะทางจากทางเหนือสู่ตัวเมืองเซี่ยงไฮ้ รวม 18 ไมล์ ซึ่งแบ่งตัวเมืองเซี่ยงไฮ้เป็น 2 ฝั่ง คือ ฝั่งตะวันออก และ ตะวันตก ด้วยลักษณะภูมิประเทศดั่งกล่าวทำให้กิจกรรมการล่องเรือ เป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ให้เพลิดเพลินกับกิจกรรมดั่งกล่าวทั้งในเวลากลางวันและ กลางคืน นอกจากนนี้ ตึกสูงระฟ้า ทั้งหอไข่มุก หอจินเหมา รวมทั้งตึกอื่นๆ ที่ มีการออกแบบคล้ายกันแม้จะสร้างคนละช่วงเวลา
•      บันด์ (The Bund) คือย่านเก่าแก่ในตัวเมืองเซี่ยงไฮ้ เราอาจเรียกได้ว่า เป็น ย่านถนนซ่งชาน อยู่ริมแม่น้ำหวงผู่ฝั่งตะวันตก ตรงกันข้ามกับหอไข่มุกและหอจินเหมา เป็นสัญลักษณ์เมืองเซี่ยงไฮ้อายุนานถึง 100 ปี บริเวณ ที่เรียกว่าบันด์นี้เริ่มจากสะพานไป่ตู ซึ่งเป็นจุดเชื่อมระหว่างแม่น้ำหวงผู่ และ คลองซูโจว ไปยังถนนจินหลิงตะวันออก จุดที่มีชื่อเสียงของย่านบันด์นั้นอยู่ทางฝั่งตะวันตกซึ่งบริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยตึกราม อาคารที่มีลักษณะโดดเด่นของศิลปะแบบกอธิคบาโรค โรมาเนสก์ คลาสสิก และ เรอเนอซองส์ อดีตกว่าร้อยปีย่านบันด์เป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของเซี่ยงไฮ้ สถานทูตส่วนใหญ่ของแต่ละประเทศ ธนาคาร ธุรกิจ และสำนักหนังสือพิมพ์ มักจะตั้งในบริเวณนี้ ซึ่งเป็นเหตุผลว่า แม้สถานที่เหล่าจะไม่ได้สร้างใชช่วงเวลาเดียวกันแต่กลับมีรูปแบบที่คล้ายคลึงกัน
•      ย่านช้อปปิ้งนานกิง (Nanjing shopping area) ย่านช้อปปิ้งนานกิง ครอบคลุมพื้นที่จากทางด้านตะวันออกจรดด้านตะวันตกของ ย่านบันด์ ถนนสายนี้ยาวถึง 3-4 ไมล์ นักท่องเทียวสามารถเลือกซื้อสินค้า รวมถึง แฟชั่นชั้นนำได้บนถนนสายนี้ ภายหลังสงครามฝิ่น (ค.ศ.1839-1842) เซี่ยงไฮ้ได้ถูกอังกฤษใช้เป็นท่าเรือนานาชาติโดยถนนนานกิงเป็นที่แรกที่เป็นที่รองรับการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเป็นจำนวนมากซึ่งต่อมาทำให้ถนนนานกิง กลายเป็นถนนช้อปปิ้งของเซี่ยงไฮ้นับแต่นั้นจวบจนปัจจุบัน
•      พิพิธภัณฑ์เซี่ยงไฮ้(Shanghai museum of History) ตั้งอยู่ส่วนกลางของจัตุรัสประชาชน เป็นพิพิธัณฑ์ของศิลปะจีนโบราณ รูปแบบของพิพิธภัณฑ์และ การนำเสนอ บริเวณโดยรอบแก่ผู้เข้าชม คือการสาธิต ด้วยวัตถุโบราณ อันสะท้อนถึงความภาปราดเปรื่องและปรัชญา ภายนอกออกแบบเป็นโดมทรงกลมและมีฐานเป็นทรงสี่เหลี่ยมอันเป็นสัญลักษณ์ของสวรรค์และพื้นโลกตามหลักแนวคิดโบราณ พิพิธภัณฑ์นี้แบ่งออกเป็น 11 ห้องแสดงศิลปะ และ 3 ห้องจัดนิทรรศการ ในแต่ะละห้องศิลปะจะจัดแสดงศิลปะหลักๆของจีน ได้แก่ เครื่องทองเหลืองโบราณ เครื่องเซรามิกโบราณ งานวาด งานเขียนลายมือ งานแกะสลักโบราณ เครื่องหยกโบราณ เหรียญ เครื่องแต่งบ้านที่ใช้ในสมัยราชวงศ์หมิง และ ชิง ตราประทับ รวมถึงศิลปะโบราณของชนชาติต่างๆที่อาศัยในจีน เครื่องทองเหลืองของราชวงศ์ชางและโจว ทำให้ผู้เขาชมรับรู้ถึงอารยธรรมในสมัยนั้น เครื่องทองเหลืองอีกกว่า 400 ชิ้น นั้นมีอายุครอบคลุมยุคทองสำริดของจีน เครื่องเซรามิกโบราณ  เป็นของมีค่าพิเศษของพิพิธภัณฑ์ ท่ามกลางงานศิลปะ กว่า500 ชิ้น จากหลากหลายราชวงศ์ อาทิ เช่น ภาพวาด และ เครื่องปั้นดินเผา จากยุค หลังยุคหิน
•     อดีตบ้านพักซุนยัตเซ็น (Sun Yat Sen residence former) ณ บ้านเลขที่ 7 บนถนนเซียงชาน ที่ตั้งของอาคาร2ชั้นสไตล์ยุโรป ที่คุณอาจไม่สังเกตเห็นได้ท่ามกลางตึกสูงๆ และ คฤหาสน์หรู แต่ที่แห่งนี้กลับเป็นที่ที่ควรแก่การเคารพเนื่องจากเป็น อดีตบ้านพักของ ซุน ยัต เซ็น ผู้นำการปกครองแบบประชาธิปไตยของจีน ซึ่งได้เปิดต้อนรับผู้มาเยือนนับแต่ปี 1988 นับแต่ปี 1918 ถึง 1925 ดร. ซุน ยัต เซ็น และ นางซุง ฉิง ภรรยาได้อาศัยในบ้านหลังนี้ ซึ่งเป็นบ้านที่ที่ผู้รักชาติจีน แคนาเดียนได้มอบให้ท่าน ที่นี่เป็นที่ๆทำให้ท่านซุนได้ กระทำการสำเร็จในการจัดตั้งลัทธิซุนเหวิน แผนการพัฒนา เป็นต้น รวมถึงแผนการปฏิรูป ด้วยหลักการ 3 ประการ คือ ชาตินิยม ประชาธิปไตย และ ความเป็นอยู่ของประชาชน และ ได้วางแนวทางทางการเมือง 3 ส่วนใหญ่ๆ อาทิ พันธมิตร ร่วมกับสหภาพโซเวียต รัสเซีย ความร่วมมือของกลุ่มคอมมิวนิสต์และ ความช่วยเหลือของกลุ่มผู้ใช้แรงงาน และ ชาวนา และที่นี่เอง ที่ซุน ยัต เซ็น ได้้รับแต่งตั้งเป็นผู้แทนพรรคคอมมิวนิสต์จีน และ ได้แต่งตั้ง พรรคการเมืองหลัก 2 พรรค คือ ชาตินิยม และ คอมมิวนิสต์ หลังการตายของ เขา ในปี 1925 นางซุง ได้ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังนี้ต่อจนถึงปี 1937 เมือกองกำลังญี่ปุ่น เข้าครอบครองเซี่ยงไฮ้ 8 ปี ต่อมา นับเนื่องแต่จีนได้ชนะในสงคราม นางซุงได้ มอบบ้านหลังนี้ให้กับทางการเพื่อเป็นอนุสรณ์รำลึกถึง ดร.ซุน ยัต เซ็น และ ในปี 1961 บ้านนี้ได้ขึ้นทะเบียนเป็น หนึ่งในอนุสรณ์ซึ่งได้รับการรักษาให้คงสภาพทางวัฒนธรรม
•      วัดพระหยกขาว(White jade buddha temple) ฝั่งตะวันตกของนครเซี่ยงไฮ้ เป็นเขตเมืองที่ทันสมัยที่สุด มีวัดน่าเคารพและมีพระพุทธรูปที่มีชื่อเสียง ซึ่งเป็นพระพุทธรูปหยก ถูกสร้างขึ้นในปี 1882 เป็นวัดที่ประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ 2 องค์ ซึ่งอัญเชิญมาจากพม่าโดยพระภิกษุชื่อ ฮุยเก็น วัดแห่งนี้ถูกทำลายในช่วงราชวงศ์ชิงถูกโค่นล้มบัลลังก์ แต่โชคดีที่พระพุทธรูปหยกขาวไม่ได้ถูกทำลาย จึงอัญเชิญมาประดิษฐานที่วัดที่สร้างขึ้นใหม่ในปี 1928 และให้ชื่อวัดแห่งนี้ว่าวัดพระหยกขาว พระพุทธรูป 2 องค์ อันล้ำค่า นี้ไม่เพียงแต่เป็นพระพุทธรูปหายากทางด้านวัฒนธรรมหากแต่ยังเป็นงานช่างศิลป์ที่มีค่ายิ่ง พระพุทธรูปปางนั่งทั้ง 2 องค์นี้ สลักจากหยกทั้งแท่ง แสงสว่างและ แสงสะท้อนของหยกขาวนั้นทำให้องค์พระพุทธรูปมีความงดงามสว่างเจิดจ้ายิ่งขึ้น องค์พระพุทธรูปปางนั่งมีความสูง 190 เซนติเมตร และ หุ้มด้วยเพชรพลอย หินมโนรา และ มรกต แสดงถึงการถือศีลอดอาหารและตรัสรู้แจ้งพระพุทธเจ้า ส่วนพระพุทธรูปปางไสยาสน์      มีความยาว 96 เซนติเมตร นอนเอียงด้านขวาและหนุนพระเศียรด้วยพระหัตถ์ขวา และ พระหัตถ์ซ้ายวางบนขาด้านซ้าย ลักษณะเช่นนี้เรียกว่า ปรินิพพาน ใบหน้านิ่งสงบแสดงถึง สันติสุข ของพระศากยมุนี เมื่อครั้งท่านได้จากโลกนี้ไป ภายในวัด ยังมีพระนอนองค์อื่นๆ ซึ่งมีความยาว 4 เซนติเมตร ซึ่งถูกอัญเชิญมาจากประเทศสิงคโปร์ โดยเจ้าอาวาสองค์ที่สิบ ในปี ค.ศ.1989 มากกว่านี้ยังมี ภาพวาด โบราณ และ คัมภีร์พระไตรปิฎก จัดวางไว้อีกส่วนของวัด ถึงแม้ว่าประวัติของพระหยกขาวจะไม่ยาวนาน ความเก่าแก่ และสถาปัตยกรรมแบบเรียบง่ายทำให้วัดแห่งนี้มีความโดดเด่นและไม่อาจเลียนแบบได้ ในเมืองทันสมัยเช่นนี้